ข้อตกลงสัญญาเช่ารถ

  1. ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 21 ปี และมีใบขับขี่สากลหรือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ตามที่หน่วยงานราชการออกให้ พร้อมนำเอกสารฉบับจริงมาแสดง ณ วันทำสัญญา ทั้งนี้ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงยินยอมให้ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมถ่ายรูปหรือถ่ายเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง หรือใบอนุญาตขับขี่ไว้เป็นหลักฐาน

  2. ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องใช้รถเพื่อการท่องเที่ยวหรือเพื่อประกอบธุรกิจที่ไม่ผิดกฎหมายเท่านั้น ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงจะไม่นำรถยนต์ที่เช่า/ยืมไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือไปกระทำความผิด และไม่บรรทุกหรือมีสิ่งของผิดกฎหมายในรถ หรือกระทำการอื่นใดอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายแห่งรัฐ หากมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ผู้เช่า/ผู้ยืมจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว

  3. ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องใช้รถเฉพาะในพื้นที่ที่ได้แจ้งไว้กับผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมตามที่ระบุไว้ในสัญญา หากผู้เช่า/ผู้ยืมฝ่าฝืนและผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมไม่สามารถติดต่อผู้เช่า/ผู้ยืมได้ภายใน 2 ชั่วโมง ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมมีสิทธิแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เช่า/ผู้ยืมได้ทันที

  4. ในกรณีที่ผู้เช่า/ผู้ยืม กระทำนอกเหนือข้อตกลงดังข้อ 2-3. ทำให้ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมต้องนำรถกลับคืน ผู้เช่า/ผู้ยืมยินดีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการนำรถกลับตามที่ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมขอเรียกเก็บ

  5. ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงไม่นำรถยนต์ที่เช่าไปให้เช่าช่วง โอน หรือส่งมอบให้บุคคลอื่นไปขับขี่อันขาด

  6. ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงว่าได้รับทราบข้อมูลรถยนต์ ประกันภัย จากผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมหรือตัวแทนในรถยนต์ที่เช่าครบถ้วนแล้ว ณ วันที่รับรถ

  7. ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับรถ หรือดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ หากมีความเสียหายใดๆเพราะเหตุดังกล่าวไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องรับผิดชอบในความเสียหายทั้งหมด

  8. ในกรณีที่รถที่เช่าเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุ ผู้เช่า/ผู้ยืมจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมทราบถึงเหตุทันที และ ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงที่จะจ่ายค่าปรับ/ค่าเสียหายส่วนแรก โดยอัตราค่าปรับ/ค่าเสียหายส่วนแรก นั้นให้เป็นไปตามแต่เหตุและกรณี ดังต่อไปนี้

    1. กรณีความเสียหายเกิดจากเหตุซึ่งมีผลเกี่ยวเนื่องกับการประกันภัย ก. กรณีอุบัติเหตุ หากผู้เช่า/ผู้ยืมเป็นฝ่ายถูก ผู้เช่า/ผู้ยืมไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหาย ข. กรณีอุบัติเหตุ หากผู้เช่า/ผู้ยืมเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี ผู้เช่า/ผู้ยืมจะต้องรับผิดในความเสียหาย (“ค่าเสียหายส่วนแรก”) ในอัตราระหว่าง 1,000 ถึง 50,000 บาท เมื่อพิจารณาแล้วค่าเสียหายอยู่ในวงเงินที่บริษัทประกันภัยคุ้มครอง โดยอ้างอิงตามประเภทรถดังตารางต่อไปนี้

    2. กรณีความเสียหายอื่นๆ ให้เป็นไปตามอัตราค่าปรับตามหน้าสัญญา

  9. ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องระมัดระวังมิให้รถเช่าหาย หากรถที่เช่าหายไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ผู้เช่า/ผู้ยืมจะต้องแสดงกุญแจตัวจริงให้ปรากฎแก่ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมเท่านั้น ผู้เช่า/ผู้ยืมมีหน้าที่ชำระค่าเสียหายเป็นจำนวนร้อยละ 20 ของราคารถยนต์ที่ประเมินไว้หรือส่วนต่างค่าใช้จ่ายรวมถึงส่วนเกินที่บริษัทประกันภัยไม่ได้คุ้มครอง เว้นแต่เป็นกรณีกุญแจตัวจริงและตัวรถหายด้วยกันทั้งหมด หรือคดีสิ้นสุดและมีหลักฐานควรเชื่อหรืออาจะเชื่อได้ว่าผู้เช่า/ผู้ยืมเป็นฝ่ายผิดในการทำให้รถหาย ซึ่งกรณีดังกล่าว ผู้เช่า/ผู้ยืมจะต้องชำระค่าใช้จ่ายของราคารถทั้งหมดร้อยละ 100 ของราคารถยนต์ที่ประเมินไว้

  10. ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงให้ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมตรวจสอบ หรือเคลื่อนย้ายรถ เมื่อผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมเห็นควรให้ดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมหรือรถยนต์คันที่ให้เช่า/ยืมได้ โดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

  11. หากอุปกรณ์ภายในรถยนต์ทั้งหมด เช่น เอกสารภายในรถยนต์ เบาะรถยนต์ ยาง อะไหล่ แม่แรง กุญแจและอื่นๆเป็นต้น ชำรุดหรือสูญหาย ในระหว่างการเช่ารถยนต์ ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องจ่ายค่าปรับทั้งหมดตามรายการที่ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมเรียกเก็บ ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมจะใช้เกณฑ์ราคาค่าปรับตามราคาที่ศูนย์บริการรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆกำหนดขึ้นและค่าบริการตามจริง

  12. ยางรถยนต์ หากยางรั่วผู้เช่า/ผู้ยืมต้องซ่อมปะยางมาคืนผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืม หากยางแตกผู้เช่า/ผู้ยืมจะต้องซื้อยางยี่ห้อ และลายตามเดิมให้ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมใหม่ ทั้งนี้ ผู้เช่า/ผู้ยืมจะต้องแจ้งให้ผู้ให้ยืมทราบถึงเหตุทันที หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

  13. ในกรณีที่รถยนต์ที่เช่า/ยืมนั้นถูกอายัด หรือกรณีถูกปรับจากเหตุอันเกิดจากการใช้รถของผู้เช่า/ผู้ยืม ทางผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืม มีสิทธิที่จะเรียกให้ผู้เช่า/ผู้ยืมชำระค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมใดๆ จากเหตุดังกล่าวได้ตามจริง โดยหากผู้เช่า/ผู้ยืมไม่ชำระค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมดังกล่าว ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมมีสิทธิหักเงินจำนวนดังกล่าวออกจากเงินประกันได้ทันทีโดยมิต้องได้รับความยินยอมและมีสิทธิในการเรียกร้องค่าชดเชยจากความเสียหายอื่นๆ (ถ้ามี) ได้ตามความเป็นจริง

  14. การนับเวลาในการเช่ารถ จะนับจากเวลาที่รับรถไปอีก 24 ชั่วโมง จึงนับเป็น 1 วัน ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องส่งคืนรถตรงเวลาตามที่ตกลง ณ สถานที่ที่ระบุไว้ โดยหากไม่สามารถคืนรถได้ตามเวลาและ/หรือสถานที่ที่ระบุไว้ ผู้เช่า/ผู้ยืมจะต้องแจ้งให้ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมทราบอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนถึงกำหนดคืนรถ ซึ่งผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมมีสิทธิปฏิเสธการขยายเวลาเช่า/ยืมดังกล่าวได้โดยมิถือว่าผิดสัญญา โดยในกรณีที่ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมตกลงที่จะให้มีการขยายเวลาการคืนรถ ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงที่จะชำระค่าบริการเพิ่มเติมดังต่อไปนี้

  15. ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ในทรัพย์สินที่ผู้เช่า/ผู้ยืมลืมไว้ในรถที่เช่าทั้งสิ้น

  16. ผู้เช่า/ผู้ยืมต้องเติมน้ำมันให้เต็มตามที่กำหนดก่อนส่งคืน ไม่เช่นนั้นผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมสามารถเรียกเก็บเงินค่าน้ำมัน หรือยินยอมให้หักค่าน้ำมันที่ขาดจากเงินประกันได้ทันที โดยหากผู้เช่า/ผู้ยืมเติมน้ำมันไม่ตรงตามชนิดที่กำหนดไว้ ผู้เช่า/ผู้ยืมยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด

  17. สัญญาเช่าฉบับนี้มีผลบังคับเฉพาะวันที่เช่า/ยืมตามที่กำหนดไว้ในสัญญาเท่านั้น หรือรวมถึงสัญญาที่มีการเช่าต่อ หากผู้เช่า/ผู้ยืม ไม่สามารถคืนรถได้ตามกำหนดเวลา และไม่แจ้งให้ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมทราบโดยทันที หากเกิดกำหนดเวลาคืนรถเกินกว่า 3 ชั่วโมง หรือไม่สามารถติดต่อตัวผู้เช่า/ผู้ยืมรถยนต์ได้ไม่ว่าด้วยประการใดๆ ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืม/ผู้ถือกรรมสิทธิ์/ผู้ครอบครองรถสามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีอาญาในข้อหาลักทรัพย์โดยใช้กลอุบายหรือยักยอกทรัพย์ได้ทันที หากมีค่าเสียหายหรือค่าดำเนินการใดๆ เกิดขึ้นจากการนี้ ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงเป็นผู้รับผิดชอบโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น

  18. หากผู้เช่า/ผู้ยืม ผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดดังกล่าวข้างต้น ผู้เช่า/ผู้ยืมตกลงยินยอมให้ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมริบเงินประกันที่วางทั้งหมดได้ทันทีเพื่อบรรเทาความเสียหายเบื้องต้น อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ค่าความเสียหายเกินกว่าเงินประกัน ผู้ให้เช่า/ผู้ให้ยืมมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายหรือนำคดีขึ้นสู่ศาลเพื่อเรียกร้องความเสียหายได้ตามความจริง